วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ ครอบครัวของผู้บริจาคอวัยวะ ผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้เกี่ยวข้องอาทิ คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ตลอดจน คณะกรรมการและคณะทำงาน เฝ้ารับประทานพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสครบรอบ ๓๐ ปี แห่งการดำเนินงานของศููนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ทั้งนี้ ศ.กิตติคุณ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล ประธานคณะกรรมการอำนวยการ ถวายเครื่องสักการะ แด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยมี นายกลินท์์ สารสิน ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กราบทูลถวายรายงาน
ในการนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระสัมโมทนียกถา ความว่า “อาตมภาพขออนุโมทนาสาธุการที่ท่านทั้งหลายมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวาระ ๓๐ ปี ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ในวันนี้ คุณค่าที่แท้จริงของการเป็นมนุษย์ย่อมได้แก่ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยศีลธรรมไม่ประทุษร้ายเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือแม้ด้วยใจ ตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดประทานหลักเบญจศีลไว้เป็นนิจศีล หรือเป็นวิถีปฏิบัติปรกติ พื้นฐานของมนุษย์ อาจเรียกขานตามศัพท์สากลว่าเป็นหลักมนุษยธรรม ที่จะช่วยจรรโลงสันติภาพได้เสมอ แต่หากว่ามนุษย์คนใดมีจิตใจสูงส่งขึ้นยิ่งกว่านั้น มุ่งดำรงตนมั่นในปณิธานและในจริยา เพื่อเกื้อกูลสุขประโยชน์ต่อมหาชนทั่วไป โดยที่มิได้เลือกที่รักมักที่ชังย่อมเสียสละทรัพย์สินอวัยวะแม้แต่ชีวิตเพื่อผู้อื่นและเพื่อรักษาความถูกต้องชอบธรรม บุคคลนั้นย่อมได้ชื่่อว่าเป็นมหาบุรุษ เป็นยอดยิ่่งกว่ามนุษย์ทั่่วไป”